วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

AI613/Week5

Moore's Law : ความสามารถ CPU จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 18-24 เดือน ดังนั้นราคาจะปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลประกอบการของบริษัทที่ได้จากผลิตภัณฑ์นั้นลดลงแบบ exponential (เทคโนโลยีมาเร็วไปเร็ว) ผลกระทบ คือ ทำให้คนมีงานทำลดลง?

Productivity Paradox : การลงทุนใน IT จะไม่เห็นผลของ Productivity ที่ชัดเจนเพราะการวัดผลไม่แสดงให้เห็นในทันที หรือบางทีการลงทุน IT ไปดึง Budget จากส่วนอื่นๆมา หรือการลงทุนใช้ Budget สูงมาก ดังนั้น กว่าจะคืนทุนจึงนาน (ส่งผลดีในระยรยาว)

ผลจากการลงทุนด้าน IT มี 2 ประเภท คือ
  • Direct Impact : ส่งผลทันทีโดยตรง เช่น ลด Cost ในการติดต่อกับ Supplier (ลด Cost เพิ่มกำไร)
  • Second Order Impact : อาจได้รับ Market Chare เพิ่มขึ้นได้ในทางอ้อม, ใช้เป็นจุดแข็งหรือกลยุทธในการแข่งขัน

Justify IT Investment : เนื่องจาก IT มีต้นทุนสูงจึงต้องมีการตัดสินใจ พิจารณาการลงทุนโดยวิเคราะห์จาก การใช้ Cost Benefit Analysis โดยการลงทุน IT จะต้องประเมินผลอย่างสมำเสมอ เพื่อดูว่าผลประโยชน์นั้นเกิดกับองค์กรหรือไม่อย่างไร

Project ที่สามารถลงทุนได้เลยไม่ต้องเสียเวลามาพิจารณา :
  • ใช้เงินลงทุนน้อย
  • เป็นInfrastructure
  • ถูกบังคับ
  • มีข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจไม่เพียงพอ (Justifyไม่ได้)
  •  ไม่มีความเสี่ยง

Intangible Benefit : ผลประโยชน์ที่จับต้องไม่ได้เป็นตัวเงิน ซึง่วัดได้ยาก ดังนั้นการวัดผลจึงให้ประเมินคร่าวๆก่อนแล้วจึงมาประเมิน Benefit ทั้ง Intangible และ Tangible

กาวัดผลแบบ Intangible : วัดได้จาก ความพึงพอใจของลูกค้า, พิจารณาอัตราการกลับมาใช้ซ้ำ, การติชมของลูกค้า, เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

Costing IT Investment
  • Fix Cost มักเกิดขึ้นในปีแรก
  • Transaction Cost :
        • Search
        • Information การได้มาซึ่งข้อมูล
        • Negotiation ก่อนตกลงซื้อ ก็มีการติดต่อผ่านตัวกลางการซื้อขาย
        • Decision การอนุมัติการซื้อ
        • Monitoring การติดต่อว่าสินค้าอยู่ที่ไหนแล้ว หรือดูบริการหลังการขายสินค้า
Revenue Models
  • Sale
  • Transaction fees
  • Subscription fees
  • Advertising fees
  • Affiliate fees : ขายสินค้าได้จากการเสียค่าเช่า Chanel มี link ไปจากหน้า web ที่เราไปเช่า
Cost Benefit Analysis
  • Development Costs : ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา จ้างคนมาพัฒนาระบบ
  • Setup Cost : ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
  • Operation Costs : ค่าใช้จ่าย ค่ากระดาษ ค่าไฟ
การวัดผลโดยใช้
  • Benchmark : เทียบกับบริษัทอื่นๆที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
  • Balance Scorecard Method : เทียบหลายๆด้าน ใช้เมตริกซ์เป็นตัวชี้วัด เช่น ลูกค้า, Productivity
IT ถือว่าเป็นการลงทุนแบบ Support
  • Overhead : เก็บค่าใช้จ่ายจากส่วนกลาง
  • Chargeback : เก็บค่าใช้จ่ายตามการใช้จริง ใครใช้คนนั้นก็จ่าย ข้อดีคือ สามารถควบคุมบริหารการใช้และค่าใช้จ่ายได้

พัชรวลัย  วิเชียรฉันท์ 5202113287

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น